ต่อจากตอนที่แล้วนะเด็กๆ ใครยังไม่ได้อ่านตอนเก่า ให้ไปดูในบทความที่เก่ากว่า หน้าแรกๆ
2. ทับทิม เป็นผืนไม้ชิงชัน ภายหลังมอบให้ นายประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง บุตรชาย
( ทับทิม เป็นผืนระนาดเอกที่เหลาจากไม้ชิงชัน ซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็งและมีสีออกแดงเข้มจัดพิเศษจึงเรียกว่า ทับทิมซึ่งมีความหมายถึงสีของเมล็ดทับทิมที่มีสีแดงเข้มสะดุดตา
ระนาดผืนนี้เป็นผืนที่ท่านครูหลวงประดิษฐไพเราะฯ ใช้สำหรับตีประชันฝีมือกับวงต่างๆ เนื่องจากเสียง ของระนาดเอกผืนนี้มีความสดใสไพเราะและ มีเสียงแกร่งกร้าวเหมาะสำหรับการบรรเลงด้วยวงปี่พาทย์ไม้แข็ง ผืนระนาดเอกทับทิมนี้เป็นมรดกตกทอดมายังอาจารย์ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) ซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของท่านครู หลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) และยังคงเก็บรักษาไว้ ที่บ้าน ....... )
3. แม่ลาย เป็นผืนไม้ไผ่มีลายในตัว
การเวกและธรณีไหว เป็นผืนระนาดของครูพุ่มและครูสุพจน์ โตสง่า
การเวก ให้เสียงกรอที่ไพเราะ แหลมคม ราวเสียงนกการเวก และ
ธรณีไหว ให้เสียงดัง เจิดจ้า มีอำนาจ
ปัจจุบันผู้ครอบครอง คือ ณรงค์ฤทธิ์ โตสง่า หรือ ขุนอิน บุตรชายของครูสุพจน์ โตสง่า
สังคีตสมัญญา เครื่องดนตรีที่กล่าวมา ล้วนเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงลักษณะเฉพาะตัวของเครื่องดนตรีแต่ละเครื่อง ซึ่งเป็นตำนานที่น่าจดจำเล่าขานไม่รู้จบสิ้น
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว มีผู้ที่นิยมดนตรีไทยมากมาย พระมหากษัตริย์ เจ้านาย ตลอดจนขุนนาง ก็ได้ให้ความอุปถัมภ์นักดนตรีไทย ในวังก็จะมีวงดนตรีประจำวัง เช่น วงวังบูรพา วงวังบางขุนพรหม วงวังบางคอแหลม และวงวังปลายเนิน เป็นต้น มีการประกวดประชันกัน ทำให้วงการดนตรีไทย เจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด
แต่หลังการเปลี่ยนแปลงการปกคลอง ผู้ปกครองประเทศในสมัยนั้น มีนโยบายที่เรียกว่า “ รัฐนิยม” คือ “ห้ามการบรรเลงดนตรีไทย” เพราะเห็นว่า ไม่สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองทัดเทียม นานาอารยประเทศ การจะบรรเลงดนตรีไทย จะต้องขออนุญาติจากทางราชการ ทำให้เป็นเหตุหนึ่งที่การดนตรีไทย ตกต่ำเป็นอย่างมาก ทำให้วัฒนธรรมและดนตรี จากต่างชาติได้เข้ามา และมีบาทบาทในชีวิตประจำวันของคนไทยเป็นอันมากมาจนถึงทุกวันนี้
ขอขอบคุณข้อมูลจากคุณนรุจ สุขจิตและ ปิยธิดา เค้ามูลคดีผู้ค้นคว้าและเรียบเรียงในรายการคุยกับดนตรี สถานีวิทยุจุฬา
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี